วันพฤหัสบดีที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2556

บดิน อิสระ & มณีพงศ์ จงจิตร

แบดคู่ชายไทยคว้าแชมป์อินเดียโอเพ่น 2012

แบดคู่ชายไทยคว้าแชมป์อินเดียโอเพ่น 2012

บดินทร์ – มณีพงศ์ คู่นักแบดบินตันชายไทย เอาชนะ ซุง ฮุน โค - ยูน ซอง ยู  คู่นักแบดบินตันเกาหลีใต้ คว้าแชมป์ชายคู่ ศึกแบดมินตันอินเดีย โอเพ่น 2012

การแข่งขันแบดมินตันโยเน็กซ์ ซันไรส์ อินเดีย โอเพ่น 2012 ที่กรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย ในรอบชิงชนะเลิศ ประเภทชายคู่ บดินทร์ อิสระ กับ มณีพงศ์ จงจิตร นักแบดมินตันชายคู่ของไทยลงสนามพบกับคู่เต็ง2 จากเกาหลีใต้ 'ซุง ฮุน โค'กับ 'ยูน ซอง ยู'  ปรากฏว่า คู่นักตบชายไทยออกสตาร์ทได้อย่างยอดเยี่ยมเก็บชัยไปก่อน 21-17นำ 1-0เกม ก่อนที่คู่เต็ง2 จากเกาหลีใต้จะกลับมาเอาคืนได้ด้วยสกอร์ 21-14ตีเสมอเป็น 1-1เกม ต้องตัดสินในเกมสุดท้าย ซึ่ง บดินทร์ กับ มณีพงศ์ ค่อยๆ เก็บแต้มก่อนที่จะปิดเกมได้ 21-14เอาชนะไปในที่สุด 2-1เกม คว้าแชมป์ ประเภทชายคู่มาครองได้สำเร็จ

ขณะที่ประเภทคู่ผสม สุดเขต ประภากมล กับ สราลีย์ ทุ่งทองคำ นักตบลูกขนไก่คู่เต็ง 5จากไทย พบคู่ปรับเก่า ตันโตวี อาหมัด กับ ลิลิยานาร์ นัตเซอร์ คู่เต็ง 2จากอินโดนีเซีย โดยเกมแรก สุดเขต และ สราลีย์ ต้านคู่อิเหนา ไม่อยู่ พ่ายไปก่อน 0-1เกม 16-21ก่อนที่คู่นักตบไทยจะมาเก็บชัยได้ในเกมที่สอง 21-12ตีเสมอเป็น 1-1เกม ต้องตัดสินในเกมสุดท้าย ซึ่งคู่นักตบจากแดนอิเหนาโชว์ความเก๋าเอาชนะคู่สุดเขต-สราลีย์ไป 21-14ทำให้ อินโดนีเซียชนะไป 2-1เกม คว้าแชมป์คู่ผสมไปครอง

ประเภทหญิงคู่ คุง อุน จุง กับ ฮา นา คิม คู่เต็ง 6จากเกาหลีใต้ คว้าแชมป์ไปได้หลังชนะคู่สาวจีน  ยีซิน เบา กับ เกียงซิง ชอง ไป 2เกมรวด 21-17, 21-18

ประเภทหญิงเดี่ยว ซูรุย ลี มือสองจากจีน คว้าแชมป์ไปหลังชนะ จูเลียน เชงค์ มือ 6จากเยอรมนี 2-1เกม 14-21, 21-17และ 21-8

ประเภทชายเดี่ยว ฮวาน โฮ ชอน จากเกาหลีใต้ ชนะ ลี ชอง เวย มือหนึ่งจากมาเลเซีย  2-1 เกม 21-18, 14-21 และ 21-19 ทำให้นักตบแดนโสม คว้าแชมป์ไปครอง




วันศุกร์ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2556

Koo Kien Keat & Tan Boon Heong

ประวัติของ Koo Kien Keat & Tan Boon Heong (Malaysia)





  เบื้องหลังความสำเร็จของพวกเขานั้นมียอดฝีมือคนหนึ่งคอยผลักดันพวกเขาอยู่ เมื่อถามถึงความสำเร็จของพวกเขานั้น ทั้งสองบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า “ ต้องขอบคุณเร็คซี่(Rexy MAINAKY)มากเลยครับ เพราะเขาพวกเราถึงได้มายืนในจุดสูงสุดของชีวิตนักแบดได้ “
จับคู่กันได้เพราะเกิดเรื่องไม่คาดฝัน
ไมนากี้เป็นอดีตแชมป์โลกแบดมินตันชายคู่ของอินโดนีเซีย ตอนนี้เขาเป็นโค้ชชายคู่ให้กับทีมมาเลเซีย จริง ๆ แล้วไมนากี้ไม่เคยมีความคิดจะให้ตันบุนฮองกับคูเคียนเคี้ยตมาจับคู่กันเลย เป็นเพราะความบังเอิญโดยแท้ที่ทำให้เด็กหนุ่มสองคนนี้กลายเป็นแชมป์ออลอิงแลนด์ชายคู่ได้อย่างทุกวันนี้
ก่อนที่จะมาคู่กับตันบุนฮองนั้น คูเคียนเคี้ยตจับคู่อยู่กับเฉินฉงหมิงและก็มีผลงานที่ไม่เลวเลย คู่ของคูเคียนเคี้ยต/เฉินฉงหมิงได้แชมป์มากมาย ในจำนวนนี้รวมถึงแชมป์มาเลเซียโอเพ่น2006และแชมป์สวิสโอเพ่น2006ด้วย แต่คู่ของพวกเขากับต้องแยกกันในการแข่งเวิร์ลแชมเปี้ยนชิพ2006ที่มาดริดเพราะเกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้น
ในตอนนั้นคูเคียนเคี้ยตกับเฉินฉงหมิงเตรียมพร้อมเต็มที่สำหรับการแข่งเวิร์ลแชมเปี้ยนชิพ แต่เมื่อพวกเขาบินไปถึงมาดริดกลับมีข่าวว่าพ่อของเฉินฉงหมิงถึงแก่กรรมซะแล้ว เฉินฉงหมิงรีบบินกลับด่วนเพื่อไปร่วมงานศพทำให้คูเคียนเคี้ยตทำอะไรอื่นอีกไม่ได้นอกจากถอนตัวออกจากการแข่งขัน เมื่อกลับจากมาดริด, เฉินฉงหมิงยังไม่อาจฟื้นจากความเศร้าโศกที่ต้องเสียบิดา ไมนากี้จึงจำเป็นต้องหาคู่ให้คูเคียนเคี้ยตใหม่ในการแข่งเจแปนโอเพ่นที่ใกล้จะมาถึง
ตันบุนฮองเป็นคู่คนที่สามของคูเคียนเคี้ยตนับตั้งแต่ตอนที่เขาเข้าร่วมทีมชาติในปี2001 ตันบุนฮองเข้าร่วมทีมชาติในปี2005 ในปี2004, ตอนนั้นเขาซึ่งอายุเพียง17ก็สามารถคว้าแชมป์เยาวชนโลกในประเภทชายคู่และในปี2006เขาก็ได้รองแชมป์เอเชียแชมเปี้ยนชิพอีกด้วย ตันบุนฮองเริ่มจับคู่กับคูเคียนเคี้ยตในปลายปี2006 ตอนนั้นเขามีอายุได้19ปีเศษ
มีหลายคนแปลกใจที่ไมนากี้ให้ทั้งสองมาจับคู่กัน แต่ผลงานที่ปรากฏออกว่าก็เป็นสิ่งบ่งบอกแล้วว่าไมนากี้คิดไม่ผิด การแข่งครั้งแรกของพวกเขาก็สามารถไปได้ถึงรองแชมป์เจแปนโอเพ่น2006 พอถึงการแข่งเอเชี่ยนเกมส์ที่โดฮาพวกเขาก็ทำให้โลกตะลึง พวกเขาปราบไช่ยวินและฟู่ไฮ่เฟิงได้ก่อน หลังจากนั้นในรอบรองและรอบชิงชนะเลิศพวกเขาเอาชนะคู่แบดจากอินโดนีเซียได้ คูเคียนเคี้ยตและตันบุนฮองกลายเป็นนักแบดชายคู่มาเลเซียคู่แรกที่ได้แชมป์เอเชียนเกมส์ในรอบ 36 ปี
คว้าแชมป์ออลอิงแลนด์คัพได้อย่างยิ่งใหญ่
หลังจากคว้าเหรียญทองเอเชียนเกมส์ได้ พวกเขาก็ยังต่อยอดความสำเร็จข้ามปี พอเริ่มต้นปี2007, พวกเขาก็ไม่ทำให้แฟน ๆ ในบ้านเกิดผิดหวังด้วยการคว้าแชมป์มาเลเซียโอเพ่น การแข่งขันต่อมาที่เกาหลีใต้พวกเขาก็เข้าได้ถึงรองรองชนะเลิศ เมื่อมาถึงการแข่งออลอิงแลนด์คัพที่เบอร์มิ่งแฮม พวกเขาปราบไช่ยวิน/ฟู่ไฮ่เฟิงอยู่หมัดในรอบชิง ทั้งสองกลายเป็นแชมป์ชายคู่ออลอิงแลนด์คู่แรกในรอบ 25 ปีของมาเลเซีย หลังจากนั้นได้หนึ่งสัปดาห์พวกเขาก็คว้าแชมป์สวิซโอเพ่นได้อีก
เมื่อพูดถึงความสำเร็จของคูเคียนเคี้ยต/ตันบุนฮอง ไมนากี้ได้พูดเอาไว้ว่า “ ตอนแรกที่ให้ทั้งสองได้จับคู่กันนั้นผมก็แค่หวังจะให้คูเคียนเคี้ยตที่มีประสบการณ์มากกว่าคอยประคองตันบุนฮองที่ยังเด็กอยู่ ไม่นึกเลยว่าทั้งสองจะเป็นเพชรแท้ของวงการแบดมาเลเซีย ผมหวังว่าพวกเขาจะเก่งขึ้นไปกว่าผมที่เคยสร้างสถิติไม่แพ้ใครถึงสามปีติดต่อกัน ผมเชื่อว่าถ้าฟอร์มของพวกเขาพีคสุด ๆ เมื่อไหร่ ใน4-5ปีต่อไปนี้จะไม่มีใครเอาชนะพวกเขาได้ ในฐานะโค้ช, ผมหวังว่าพวกเขาจะประสบความสำเร็จมากกว่าผมให้ได้ ถ้าพวกเขาทำไม่ได้ นั่นก็แสดงว่าผมเป็นโค้ชที่ใช้ไม่ได้ “
เป้าหมายถัดไป: เหรียญทองโอลิมปิค
ในตอนที่คูเคียนเคี้ยต/ตันบุนฮองกลับจากสวิซเซอร์แลนด์, มีแฟน ๆ ถึง500คนมารอรับพวกเขาที่สนามบิน พวกเขากลายเป็นจุดสนใจของนักข่าว ทีมแบดมาเลเซียให้พวกเขาพักผ่อนได้หนึ่งสัปดาห์แต่ทั้งสองคนก็แทบไม่ได้พักเพราะต้องให้สัมภาษณ์วุ่นไปทั่ว คูเคียนเคี้ยตเมื่อได้กลับถึงบ้านเกิดก็ตัดผมตามที่สัญญากับเพื่อนร่วมทีมว่าถ้าได้แชมป์ออลอิงแลนด์ก็จะโกนผม แต่เป็นเพราะว่าผิวหนังศรีษะของเขาค่อนข้างบอบบาง คูเคียนเคี้ยตจึงตัดได้แค่ทรง “ ทหารเกณฑ์ ”
การที่ทั้งสองกลายเป็นคนดังของมาเลเซียทำให้เหล่าบรรดาโค้ชแบดของทีมชาติมาเลเซียอดห่วงไม่ได้ เฮดโค้ชของมาเลเซียเย่จิ่นฟู๋ถึงกับเคยสั่งห้ามทั้งสองไม่ให้ไปงานสังคมต่าง ๆ เด็ดขาด ไมนากี้พูดถึงเรื่องนี้ไว้ว่า “ เราต้องคอยดูแลให้เพชรสองเม็ดนี้เปล่งประกายไปได้อีกนาน ๆ “ คูเคียนเคี้ยตเองก็เข้าใจถึงเรื่องนี้ “ ที่โค้ชคอยยั้งพวกเราไว้เป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้วครับ พวกเราพึ่งประสบความสำเร็จได้ไม่นาน ถ้าหลงระเริงไปกับชื่อเสียงจะทำให้เราลืมแบดมินตันได้ พวกเรายังต้องลงแข่งในอีกหลายรายการใหญ่ ๆ เส้นทางของพวกเรายังอีกไกลครับ “
ใน 8 มือวางอันดับโลกสูงสุดในปัจจุบันนั้น, คูเคียนเคี้ยต/ตันบุนฮองเคยเอาชนะมาได้แล้วเกือบทุกคู่โดยไม่สามารถเอาชนะคู่ของเกาหลีใต้เพียงคู่เดียวในการแข่งที่โคเรียโอเพ่น แม้แต่คู่ฟงยวิ๋นยังเคยแพ้ให้แก่พวกเขาถึงสามครั้ง แสดงให้เห็นฝีมือที่น่าเกรงขามของพวกเขา ล่าสุดพวกเขายังพึ่งคว้าแชมป์ที่ 5 ในปีนี้ที่มาเก๊าได้อีกด้วย พวกเขาจะนำความปราบปลื้มมาให้กับชาวมาเลเซียได้อีกเท่าใดในอนาคตนั้น เป็นเรื่องที่น่าจับตามองเป็นอย่างยิ่ง
แปลและเรียบเรียงจาก http://sports.sina.com.cn/o/2007-05-16/11002924443.shtml






ประวัติโดยย่อของคูเคียนเคี้ยต (Koo Kien Keat)วันเกิด:        18-9-1985สัญชาติ:       มาเลเซียสถานที่เกิด:  มาเลเซียส่วนสูง:        177 เซนติเมตรมือข้างถนัด:  ขวา

ประวัติโดยย่อของตันบุนฮอง (Tan Boon Heong )วันเกิด:         18-9-1987สัญชาติ:        มาเลเซียสถานที่เกิด:   มาเลเซียส่วนสูง:        180 เซนติเมตรมือข้างถนัด:  ซ้าย

วันศุกร์ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2555

Jung Jae Sung & Lee Yong Dae


 Jung Jae Sung & Lee Yong Dae


Men Double Champion All England 2012







    

   

Fu Hai Feng & Cai Yun


ประวัติของ Fu Hai Feng & Cai Yun 

Men Double Champion Olympic 2012






ข้อมูลโดยย่อของไช่ยวินและฟู่ไฮ่เฟิง


 
ฟู่ไฮ่เฟิง (Fu Haifeng)

สถานที่เกิด: เมืองกวางตุ้ง, มณฑลกวางเจา

วันเกิด: 01-02-1984
ส่วนสูง: 180 ซม.
น้ำหนัก: 70 กก.

ฟู่ ไฮ่เฟิงเป็นนักแบดถนัดซ้าย เขาเข้าร่วมทีมประจำมณฑลในปี1998 ก่อนหน้าปี2002นั้นเขาตีในประเภทเดี่ยวมาโดยตลอด พอต้นปี2002, ทีมกวางตุ้งของฟู่ไฮ่เฟิงขาดคนลงแข่งในประเภทชายคู่เลยให้ฟู่ไฮ่ฟงที่ขณะ นั้นอายุได้ 18 ปีลงแข่งในแบดชิงแชมป์ทั่วประเทศ คู่ของฟู่ไฮ่เฟิงทะลุถึงรอบชิงและได้รองแชมป์ไปในที่สุด หลังจากนั้นทีมชาติก็เรียกตัวเขาให้เข้าร่วมทีมชาติในฐานะนักแบดประเภทคู่





ไช่ยวิน (Cai Yun)

สถานที่เกิด: ณฑลเจียงซู

วันเกิด: 19-01-1980
ส่วนสูง: 183 ซม.
น้ำหนัก: 68 กก.

ไช่ยวิ นเข้าเรียนในโรงเรียนพละศึกษาของซูโจวในปี1989 พอปี1993ก็ได้เข้าร่วมมณฑลซูโจว ในปี1999ก็ได้เข้าร่วมทีมชาติชุดบี ในปี2002, ไช่ยวินเปลี่ยนมาเล่นในประเภทคู่โดยจับคู่กันฟู่ไฮ่เฟิงมาจนถึงปัจจุบัน
ไช่ยวิน/ฟู่ไฮ่ฟง: คู่หูฟงยวิ๋น ขี่พายุทะลุฟ้า

เวลาที่ไช่ยวินและฟู่ไฮ่ฟงลงแข่งด้วยกันนั้น ทั้งสองแบ่งหน้าที่กันได้อย่างลงตัว ไช่ยวินจะรับผิดชอบพื้นที่ของครึ่งคอร์ทหน้าส่วนฟู่ไฮ่ฟงจะคอยหาหนทางโจมตีจากด้านหลัง คนนึงรับ, คนนึงรุก เป็นการผสานงานที่ดูลงตัวเป็นที่สุด ส่วนเวลาที่อยู่นอกสนามนั้น อุปนิสัยของทั้งสองก็แตกต่างกัน ฟู่ไฮ่เฟิงเป็นคนเก็บตัว ไช่ยวินชอบเฮฮากับเพื่อนฝูง ทั้งสองแตกต่างกันทั้งในสนามและนอกสนาม และเมื่อเราตามดูถึงประวัติของพวกเขาเราก็ยังพบอีกว่าเส้นทางแบดมินตันของ คู่นี้ก็แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

ไช่ยวินเริ่มสัมผัสกับแบดมินตันก็ เพราะเขาหาสิ่งที่จะทำให้เขาหนีจากการฝึกแอคคอเดี้ยนได้ พ่อของไช่ยวินบังคับให้เขาเรียนมันตั้งแต่ 6 ขวบ สำหรับเด็กที่ชอบกระโดดโลดเต้นอย่างไช่ยวินแล้วนั้น การต้องมานั่งนิ่ง ๆ เพื่อเล่นดนตรีเป็นอะไรที่ทรมานเอามาก ๆ

ตอนที่ไช่ยวินอยู่ชั้นป .3นั้น เขามักจะวิ่งได้เป็นที่หนึ่งเสมอ ครูพละเห็นว่าเขามีความสามารถทางกีฬาเลยพาเขาไปแนะนำให้กับโรงเรียนพละศึกษา ของมณฑลเพื่อเรียนแบดมินตัน พ่อแม่เองก็ยินยอมให้เขาไปเพราะรู้ว่าไช่ยวินไม่อยากเล่นดนตรีอีกต่อไป

เมื่อ เทียบกับไช่ยวินแล้ว, เส้นทางของฟู่ไฮ่เฟิงดูจะเป็นทางตรงโดยตลอด ตอนที่อายุได้ 7 ขวบ ทีมแบดมินตันประจำโรงเรียนพละศึกษาของกวางตุ้งเปิดรับสมัครเด็กเข้าฝึก ฟู่ไฮ่เฟิงผ่านการคัดตัวอย่างง่ายดาย ฟู่ไฮ่ฟงเดินตามเส้นทางสายแบดมินตันอย่างมั่นคง เขาพัฒนาขึ้นอย่างเป็นขั้นตอน เมื่อถึงปี2002เข้าก็ได้เข้าร่วมทีมประจำมณฑล หลังจากนั้นอีกแค่ 8 เดือนฟู่ไฮ่ฟงก็เป็นหนึ่งในนักแบดทีมชาติแล้ว ในตอนนั้นเขาอายุเพียงแค่ 18 ปี

เมื่อเปรียบกับฟู่ไฮ่เฟิง, เส้นทางแบดมินตันของไช่ยวินไม่ค่อยราบรื่นนัก พอเขาเรียนอยู่ที่โรงเรียนพละศึกษาของซูโจวจนขึ้นม.2 พ่อแม่ของเขาเห็นว่าไช่ยวินต้องเรียนหนัก การบ้านก็เยอะ พวกเขาเลยบอกให้ไช่ยวินเลิกตีแบด ไช่ยวินไม่ได้ไม่ซ้อมเลยหนึ่งเดือนเต็มจนโค้ชของเขาต้องมาตามและขอร้องให้ พ่อแม่ของไช่ยวินให้โอกาส “ให้ไช่ยวินลองดูอีกครั้งนะครับ ถ้าไช่ยวินได้แชมป์ในการแข่งขันกีฬาประจำมณฑล, เขาก็จะได้เข้าร่วมทีมมณฑลซูโจว” ไช่ยวินเองก็เชื่อว่าเขาเป็นนักแบดที่เก่งที่สุดในซูโจว และสุดท้ายเขาก็ทำได้อย่างที่หวัง

เมื่อได้เข้าร่วมทีมมณฑล การแข่งขันเพื่อชิงตำแหน่งในทีมมีสูงแต่ไช่ยวินก็มั่นใจว่าเขาจะทำได้ แต่ปัญหาของไช่ยวินในตอนนั้นกลับไม่ใช่ว่าจะได้แข่งหรือเปล่าแต่เป็นปัญหา เรื่องที่ว่าเขาจะได้เล่นแบดมินตันต่อไปหรือเปล่า ปัญหาก็คือไช่ยวินมีโรคหัวใจซึ่งเป็นมาแต่กำเนิด…..

ไช่ยวินเองก็รู้ ตัวว่าหัวใจของเขามีปัญหา บางเวลาที่ซ้อมแบดนั้นหัวใจของเขาจะเต้นแรงเหมือนมีกระต่ายกระโดดอยู่ข้างใน เมื่อเอามือทาบดูพอจะวัดได้ว่าเต้นมากกว่า200ครั้งต่อนาที นอกจากนี้เขายังรู้สึกเหมือนจะเป็นลมและหายใจไม่ออก ขาแขนก็หมดแรงจนยกไม่ขึ้น แต่พอได้พักซัก3-4นาทีอาการก็จะเป็นปกติ ไช่ยวินไม่ได้วิตกกับอาการของเขานักเพราะคิดว่ามันไม่สาหัสอะไร พักนิดหน่อยเขาก็สามารถกลับไปตีแบดต่อได้ แล้วอาการนี้ก็เป็นแค่บางเวลาอีกด้วย

แต่ดูเหมือนอาการที่มานาน ๆ ทีจะเริ่มบ่อยขึ้นทุกที จากครึ่งปีครั้งเป็นสองสามเดือนครั้งจนในที่สุดก็เป็นเดือนละครั้ง เมื่อไช่ยวินได้ตรวจร่างกายในปี2001จึงได้พบว่าหัวใจของเขาไม่เหมือนหัวใจคน ปกติโดยที่มีเส้นเลือดแปลก ๆ โผล่มาอีกเส้นหนึ่ง ไช่ยวินแอบไปผ่าตัดโดยไม่ให้พ่อแม่รู้ ไช่ยวินนอนพักในโรงพยาบาลไม่กี่วันแต่เขารู้สึกเหมือนเป็นปี เขาไม่รู้ว่าจะได้กลับไปเล่นแบดอีกหรือเปล่า เขาเริ่มคิดถึงการกลับไปเรียนหนังสือแทน

แต่ในที่สุดเมื่อคุณหมอยืนยันว่าเขาสามารถกลับไปตีแบดได้ ไช่ยวินจึงได้กลับสู่สนามแบดอีกครั้ง ปัญหาทั้งหลายสิ้นสุดลงแล้ว

ส่วน ฟู่ไฮ่เฟิงที่อ่อนกว่าไช่ยวิน 4 ปีไม่เคยมีเรื่องให้น่าหนักใจ ถ้าจะมีเรื่องหนักใจคงเป็นเรื่องที่จะไม่ได้เล่นเกมส์คอมพิวเตอร์ที่เขารัก มากกว่า ตอนที่เขาไปแข่งออลอิงแลนด์นั้น คืนก่อนแข่งหนึ่งวันฟู่ไฮ่เฟิงแอบเล่นเกมส์ในตอนดึก เขาคิดว่าโค้ชคงหลับกันหมดแล้ว คงไม่มีใครมาตรวจที่ห้องแน่ ๆ แต่ฟู่ไฮ่เฟิงคาดผิด ในคืนนั้นโค้ชลู่เสียงเหวินตื่นขึ้นมาเข้าห้องน้ำพอดี เขาเห็นแสงไฟจากหน้าจอคอมลอดมาจากห้องของฟู่ไฮ่เฟิง โค้ชลู่จึงริบคอมพิวเตอร์ของเขา

หลังจากได้แชมป์ออลอิงแลนด์ ฟู่ไฮ่เฟิงถึงได้คอมสุดที่รักของเขากลับคืน สำหรับฟู่ไฮ่เฟิงแล้ว การไม่ได้เล่นเกมส์ก็คงจะทำให้เขาเป็นโรคหัวใจได้เช่นกัน


        Yun Cai Yun Cai and Haifeng Fu (L) of China compete against Mathias Boe and Carsten Mogensen of Denmark in their Men's Doubles Badminton Gold Medal match on Day 9 of the London 2012 Olympic Games at Wembley Arena on August 5, 2012 in London, England.



Lee Chong Wei


Chong Wei wants a concerted effort in search for next Malaysian champ








วันพฤหัสบดีที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

Lin Dan


 


Lin Dan - Olympics Day 7 - Badminton


ไม้ยี่ห้อ YONEX รุ่น : AT-900T (Armortec 900 Technique)


 

 ไม้ยี่ห้อ : YONEX
รุ่น : AT-900 T (Armortec 900 Technique)
รายละเอียด : เป็นไม้บุกตามตระกูล Armrotec แต่น้ำหนักหัวเบากว่ารุ่น 900 power เล็กน้อย 1 point จึงเน้นคล่องกว่าเล็กน้อย                                ทำให้สามารภเล่นลูกเทคนิดได้ด้วย แต่ยังตบได้หนักรุนแรงอยู่
ข้อมูลไม้ : -น้ำหนัก : 4U 80-84.9g
                -รูปแบบการเล่น : เกมรุก
                -ความแข็งของก้าน : แข็ง
                -บาลานซ์ : หัวหนัก
                -ความตึงต้องเอ็นที่รองรับ : 20-27lbs